ALOE PEPTIDE | yourSTC

PRP หน้าใส เอาใจคนกลัวแพ้

อยากเป็น"คนหน้าใส" แต่ติดตรงที่เป็นคนแพ้ง่าย ไม่รู้?? จะทำยังไงดี วันนี้ทาง STC Clinic จะมาแนะนำวิธีช่วยให้หน้าใส แบบไม่ต้องกลัวแพ้ ด้วยการทำ PRP หรือ Platelet Rich Plasma การฟื้นฟูผิวหน้าด้วยการนำเลือดจากตัวเรา

PRP Face มีประโยชน์ในด้านความงามได้หลายอย่าง อาทิ

การฟื้นฟูและคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้า
ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ดูฉ่ำวาว
เพื่มการกระตุ้นคอลลาเจน
ความยืดหยุ่นให้กับผิวอีกครั้ง
ช่วยลดปัญหาหลุมสิว รอยสิว หรือรอยบาดแผล
ลดกระ ฝ้า และรอยดำ

โดย PRP หรือ Platelet Rich Plasma สามารถฟื้นฟูผิวหน้าด้วยการนำเลือดของผู้ป่วยมาสกัดคัดแยก ซึ่งส่วนที่เป็นของเหลวหรือน้ำเลือด (Plasma) ประกอบไปด้วยเกล็ดเลือด (Platelet) โปรตีนและเซลล์จากกระแสเลือดเข้มข้น ที่แยกได้จากตัวเราเอง เพื่อนำไปใช้สำหรับการรักษา ซึ่งเต็มไปด้วยโมเลกุล Growth Factor ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ และสเต็มเซลล์เพื่อซ่อมแซมผิวหน้าที่เสื่อมสภาพไปตามอายุ และลดการเสื่อมสภาพ เหี่ยวย่น ริ้วรอย รวมทั้งปัญหาผิวที่เกิดจากมลภาวะต่างๆ รวมถึงลดเม็ดสี ทำให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น

สนใจทำ PRP Face ติดตามรายละเอียดได้ตามลิงค์ที่แนบ : PRP Face 𝐒𝐓𝐂 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 "𝐘𝐨𝐮𝐫 𝐏𝐞𝐫𝐬𝐨𝐧𝐚𝐥𝐢𝐳𝐞𝐝 𝐇𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡 𝐂𝐨𝐧𝐬𝐮𝐥𝐭𝐚𝐧𝐭" 𝐒𝐓𝐂'𝐬 𝟓𝐏𝐬 #𝐏𝐞𝐫𝐬𝐨𝐧𝐚𝐥𝐢𝐳𝐞𝐝 เราไม่เชื่อใน 𝐎𝐧𝐞 𝐬𝐢𝐳𝐞 𝐟𝐢𝐭𝐬 𝐚𝐥𝐥 โปรแกรมการรักษาของเราจึงออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ #𝐏𝐫𝐞𝐯𝐞𝐧𝐭𝐢𝐨𝐧 การป้องกันคือหัวใจหลักในการหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วย #𝐏𝐫𝐞𝐜𝐢𝐬𝐢𝐨𝐧 แม่นยำกับผลลัพธ์ในการรักษาที่ถูกจุดและไม่เลี้ยงไข้ #𝐏𝐫𝐞𝐯𝐢𝐥𝐞𝐝𝐠𝐞 มุ่งเน้นการบริการเหนือระดับ #𝐏𝐫𝐢𝐨𝐫𝐢𝐭𝐲 𝐘𝐨𝐮𝐫 𝐒𝐚𝐟𝐞𝐭𝐲 ใส่ใจในความปลอดภัยของคุณดั่งคนในครอบครัว ปรึกษาและฟื้นฟูสุขภาพ Tel: 02-114-7635

Mobile: 093-809-6721

Facebook: STCClinic Instagram: STCClinic

Line shop: STCClinic

Shopee: STCClinic

Map:https://bit.ly/2MKFxyc

#STCClinic

#สาระน่ารู้จากSTCClinic #stcclinic #MSCs #MesenchymalStemCells #StemCells

#สเต็มเซลล์ #growthfactor #rejugrowthfactor #ชะลอวัย #antiaging

#เวชศาสตร์ชะลอวัย #โกรทแฟคเตอร์ #วัยทอง #ฮอร์โมน #เซลล์บำบัด

#เซลล์ต้นกำเนิด #กระตุ้น #ฟื้นฟูผิว #ซ่อมสร้าง #Rejuvenate #stcclinic #PlateletRichPlasma #PRPprogram

7 กลิ่นบำบัดความเครียด ช่วยผ่อนคลายร่างกายให้สดชื่น

ศาสตร์ ‘กลิ่นบำบัด’ หรือ Aroma therapy ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในช่วงนี้ เพราะการกลิ่นนั้นทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากปัญหาต่างๆที่เจอในแต่ละวัน จากความเหนื่อยล้า ทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจของเรารู้สึกดี แล้วกลิ่นไหนที่จะบำบัดความเครียดของเราได้ดีกันนะ วันนี้ LBM Health Care นำความรู้เกี่ยวกับกลิ่นที่ช่วยให้เราผ่อนคลายมาฝาก

กลิ่นสะระแหน่ หรือมินต์ เป็นกลิ่นที่มีความหอมเย็น จึงช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและเย็นสดชื่น อีกทั้งยังช่วยลดความรู้สึกเครียด ช่วยคืนความสดชื่น และที่สำคัญก็คือช่วยระงับอาการปวดศีรษะ ไมเกรน คลายความอ่อนล้า และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการคลื่นไส้และวิงเวียนเมา
กลิ่นลาเวนเดอร์ ถือเป็นกลิ่นแรกๆ ที่ถูกนำมาใช้บำบัดและผ่อนคลายความเครียดมากที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยให้รู้สึกสดชื่น บรรเทาอาการปวดศีรษะ ไมเกรน และความเหนื่อยล้าของสมองให้หลับสบายมากขึ้น อีกทั้งยังปรับสมดุลของจิตใจ ให้กลับมามีสมาธิจดจ่อมากขึ้น
กลิ่นผลไม้ตระกูลซีตรัส หรือผลไม้ตระกูลมะนาว ไม่ว่าจะเป็นส้ม มะนาว เลม่อน ฯลฯ เป็นกลิ่นที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่นมากขึ้น นอกจากนี้กลิ่นของมะนาว ยังสามารถช่วยลดความเครียด และส่งผลดีต่ออารมณ์ด้านอารมณ์
กลิ่นกุหลาบ ช่วยทำให้ผ่อนคลาย บรรเทาอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ บรรเทาอาการอ่อนเพลีย และช่วยทำให้สดชื่นมีชีวิตชีวา และที่สำคัญที่สุดช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวลได้
กลิ่นกระดังงา ช่วยให้จิตใจสงบได้มากขึ้น ส่วนคนที่มีปัญหานอนหลับยาก หรือนอนไม่หลับ การใช้กลิ่นบำบัดด้วยดอกกระดังงาก็จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น และช่วยลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย
กลิ่นโรสแมรี่ ช่วยกระตุ้นให้เรารู้สึกสดชื่น ตื่นตัวอยู่เสมอ ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ลดอาการปวดศีรษะ และลดภาวะความเครียดสะสมได้เป็นอย่างดี
กลิ่นวานิลลา มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท ช่วยคลายความเครียด ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ "LBM Health Care" ได้ที่

Tel: 02-114-7635

Facebook: LBMHealthcare

Line shop: LBMHealthcare

Shopee: LBMHealthcare

Lazada: LBMHealthcare

Booda best: LBMHealthcare

Line: @lbmhealthcare

#LBMhealthcare

#สาระน่ารู้จากLBMhealthcare

#7กลิ่นบำบัดความเครียด

#ชะลอวัย #ต่อต้านแบคทีเรีย

#น้ำผึ้ง #ผิวสวย

#ความงาม #ฟื้นฟูผิว

#ดูแลผิว #บำรุงผิว

#ผ่อนคลายความเครียด #บำบัด

ฟื้นฟูผิวไหม้ จากแสงแดด ด้วย 7 วิธี

ถ้าพูดถึงแสงแดดเมืองไทย บอกเลยว่าทาครีมกันแดดอย่างเดียวก็เอาไม่อยู่ แถมรังสี UV ยังเป็นตัวการร้ายที่ทำร้ายผิวให้หมองคล้ำ แสบ ร้อน ไหม้อีกด้วย และในวันนี้ LBM Health Care ขอมากระซิบเคล็ดลับฟื้นฟูผิวไหม้จากแดดมาฝาก

1. เจลหรือว่านห่างจระเข้ เป็นตัวช่วยปลอบประโลมผิวที่สามารถกู้ผิวที่ถูกเผาไหม้ได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบได้เป็นอย่างดี เช่น มาสก์เจลจาก LMB HealthCare สูตร ALOE PEPTIDE-1 ที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและทุกสภาพผิว อีกทั้งยังช่วยล็อคความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี

2. มอยเจอร์ไรเซอร์ สามารถบรรเทาอาการแห้งและสูญเสียน้ำของผิวได้อย่างล้ำลึก หากทาหลังจากอาบน้ำในขณะผิวหมาดๆ ยิ่งทำให้มอยเจอร์ไรเซอร์ ซึมเข้าผิวได้ไวและเร็วกว่าตอนผิวแห้ง

3. ประคบน้ำเย็น เป็นตัวช่วยระบายความร้อน และลดการอักเสบ แต่ควรหลีกเลี่ยงประคบด้วยน้ำแข็งในบริเวณที่เกิดผิวไหม้ เพราะน้ำแข็งจะทำลายผิวมากขึ้น

4. ครีมทาบำรุง ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ฟื้นฟู และป้องกันไม่ให้ผิวลอก ทำให้หายเร็วยิ่งขึ้น

5. ดื่มน้ำเยอะๆ การดื่มน้ำเยอะๆ นอกจากจะช่วยเพิ่มความชื้อให้ผิวแล้ว ยังช่วยซ่อมแซมสภาพผิวที่เสียให้กลับมาแข็งแรงขึ้นได้

6. สวมเสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อลดการเสียดสี ขณะที่เซลล์ผิวกำลังซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งจะทำให้ผิวหนังฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่

7. หลีกเลี่ยงการออกแดดกลางแจ้ง เนื่องจากผิวไหม้แดดจะมีความไวต่อแสง ทำให้ผิวบอบบางและอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย หรือหากต้องไปกลางแจ้งควรทาครีมกันแดด สวมเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดดได้ดี